เครื่องหมาย SHA และ SHA Plus+

                 SHA นั้นย่อมาจาก Amazing Thailand Safety & Health Administration เป็นโครงการที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. นั้น ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการยกระดับมาตรการความสะอาดหรือความปลอดภัยด้านสุขอนามัย จุดมุ่งหมายของ SHA                 คือ กระตุ้นให้สถานที่ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้นเพิ่มความรัดกุมกับสินค้าและบริการ โดยคำนึงถึงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 19 ให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นไปอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามหลักสุขอนามัย โดยเครื่องหมาย SHA นั้น เป็นตราที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค SHA ต่างกับ SHA Plus+ ยังไง ?                เครื่องหมาย SHA Plus+ คือ ผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA และมีพนักงานในสถานที่ประกอบการหรือกิจการที่ได้รับวัคซีน COVID-19 ครบโดสอย่างน้อย 70% ของพนักงานทั้งหมดในองค์กร ที่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้  ซึ่งแอดมินขอบอกเลยว่าร้านอาหารเวล่า อยุธยาของเราได้ผ่านมาตรฐาน SHA และ SHA+ เรียบร้อยแล้วค่ะ โดยพนักงานของเราทุกคน ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 100 %
Read More
ทัวร์อยุธยา : World Heritage J

ทัวร์อยุธยา : World Heritage J

ทัวร์อยุธยา : World Heritage J Previous Next โปรแกรมทัวร์อยุธยา World Heritage J เวลา รายละเอียด 08.00 น. พบกันที่จุดนัดพบ 09.30 น. นำทุกท่านมาเยี่ยมชม เมืองมรดกโลกของไทย วัดมหาธาตุ วัดหน้าพระเมรุ วัดมงคลบพิตร วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดโลกยสุธาราม ท่านจะได้ชมความสวยงามของวัดวาอารามที่เจริญรุ่งเรืองในอดีต ถึงในปัจจุบัน แม้จะเหลือไว้เพียงซากปรักหักพัง และยังคงความสวยงามของแต่ละสถานที่ 12.30 น. นำทุกท่านลงเรือรับประทานอาหารบนเรือ VELA Cruise ที่ท่าเรือ ภัตราคาร VELA โดยระหว่างทางจะผ่านสถาน ที่สาคัญต่างๆมากมาย ซื่งได้แก่ วัดพนัญเชิง, ป้อมเพชร, วัดพุทไธศวรรย์, โบสถ์เซนต์โยเซฟ, วัดไชยวัฒนาราม, พระตำหนักสิริยาลัย เป็นต้น 14.30 น. เรือล่องกลับมาเทียบท่าเรือที่ ภัตราคาร VELA จากนั้นนำทุกท่านออกเดินทางกลับ 16.30 น. เดินทางถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ ** บริการเฉพาะ เสาร์, อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ** สถานที่ท่องเที่ยว โปรแกรม World Heritage วัดมหาธาตุ วัดหน้าพระเมรุ วัดมงคลบพิตร วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดโลกยสุธาราม
Read More
ทัวร์อยุธยา : World Heritage D

ทัวร์อยุธยา : World Heritage D

ทัวร์อยุธยา : World Heritage D Previous Next โปรแกรมทัวร์อยุธยา World Heritage D เวลา ราบละเอียด 13.00 น. พบกันที่จุดนัดพบ 14.00 น. นำทุกท่านเยี่นมชมวัดที่มีความสำคัญในสมัยอยุธยา ได้แก่ วัดใหญ่ชัยมงคล วัดพนัญเชิงวรวิหาร วัดไชยวัฒนาราม วัดโลกยสุธาราม ท่านจะได้ชมความสวยงามของวัดวาอารามที่เจริญรุ่งเรืองในอดีต ถึงแม้ในปัจจุบันจะเหลือไว้เพียงซากปรักหักพัง แต่ยังคงมีความสวยงามของในแต่ละสถานที่ 18.00 น. นำทุกท่านลงเรือรับประทานอาหารบนเรือ VELA Cruise ที่ท่าเรือ ภัตราคาร VELA โดยระหว่างทางจะผ่านสถาน ที่สาคัญต่างๆมากมาย ซื่งได้แก่ วัดพนัญเชิง, ป้อมเพชร, วัดพุทไธศวรรย์, โบสถ์เซนต์โยเซฟ, วัดไชยวัฒนาราม, พระตำหนักสิริยาลัย เป็นต้น 20.30 น. เรือล่องกลับมาเทียบท่าเรือที่ ภัตราคารเวล่า VELA จากนั้นนำทุกท่านออกเดินทางกลับ 22.30 น. เดินทางกลับถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ ** บริการเฉพาะ เสาร์, อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ** สถานที่ท่องเที่ยว โปรแกรม World Heritage วัดมหาธาตุ วัดหน้าพระเมรุ วัดมงคลบพิตร วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดโลกยสุธาราม
Read More

ทัวร์อยุธยา : Hilight D

Previous Next โปรแกรมทัวร์อยุธยา Hilight D เวลา รายละเอียด 13.00 น. พบกันที่จุดนัดพบ 14.00 น. นำทุกท่านมาเยี่ยมชม เมืองมรดกโลกของไทย วัดใหญ่ชัยมงคล วัดพนัญเชิงวรวิหาร วัดไชยวัฒนาราม วัดโลกยสุธาราม ท่านจะได้ชมความสวยงามของวัดวาอารามที่เจริญรุ่งเรืองในอดีต ถึงในปัจจุบัน แม้จะเหลือไว้เพียงซากปรักหักพัง และยังคงความสวยงามของแต่ละสถานที่ 18.00 น. นำทุกท่านลงเรือรับประทานอาหารบนเรือ VELA Cruise ที่ท่าเรือ ภัตราคาร VELA โดยระหว่างทางจะผ่านสถาน ที่สาคัญต่างๆมากมาย ซื่งได้แก่ วัดพนัญเชิง, ป้อมเพชร, วัดพุทไธศวรรย์, โบสถ์เซนต์โยเซฟ, วัดไชยวัฒนาราม, พระตำหนักสิริยาลัย เป็นต้น 20.30 น. เรือล่องกลับมาเทียบท่าเรือที่ ภัตราคารเวล่า VELA จากนั้นนำทุกท่านออกเดินทางกลับ 22.00 น. เดินทางกลับถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ ** บริการเฉพาะ เสาร์, อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ** สถานที่ท่องเที่ยว โปรแกรม Hilight
Read More

วัดนางกุย

วัดนางกุย Image #1 Image #2 Image #3 Image #4 Image #5 Image #6            วัดนางกุย เป็นวัดที่ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองด้านใต้ ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก สร้างขึ้นโดยสามัญชนชื่อนางกุย เป็นผู้ที่มีทรัพย์สินเงินทอง จึงได้มาสร้างไว้ วัดนางกุยมีสิ่งที่นาสนใจหลายอย่าง ได้แก่ 1.พระประธานอายุกว่า 400 ปี 2. พระพุทธรูปศิลาปางสมาธิ สมัยทวารวดี พุทธศตวรรษที่ 11-16  3. หลวงพ่อยิ้ม เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่แกะสลักจากไม้สักทองและลงรักปิดทองอย่างสวยงาม เป็นพระเก่าแก่อยู่คู่กับวัดมาช้านาน (หลวงพ่อยิ้มมีประวัติตามที่เค้าเล่ากันมาว่า หลวงพ่อยิ้มได้ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยามาติดอยู่บริเวณหน้าวัด เจ้าอาวาสและชาวบ้านจึงได้อัญเชิญหลวงพ่อยิ้มไปประดิษฐ์ฐาน ณ พระอุโบสถวัดนางกุย 4. เจดีย์ พระปรางค์ 5. แม่นางตะเคียน เจ้าแม่ตะเคียนทอง  แกะสลักจากต้นตะเคียนทอง ที่อยู่คู่วัดมานานกว่า 400 ปี ต้นตะเคียนใหญ่ได้ยืนต้นตายเมื่อประมาณปี พ.ศ.2540 เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ทางวัดฯจึงได้นำไปแกะสลักเป็นรูปแม่ตะเคียนทอง และนำมาวางไว้บนตอตะเคียนต้นเดิม เพื่อให้คนได้สักการะบูชา ขอโชคขอลาภ
Read More

วัดขุนพรหม

วัดขุนพรหม Image #1 Image #2 Image #3 Image #4 Image #5 Image #6           วัดขุนพรหม เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยายังเป็นราชธานี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ไกลจากป้มเพชรมากนัก เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่า ศาลาการเปรียญอายุกว่า 100 ปีถล่มลงมาขณะกำลังซ่อมแซม เป็นที่น่าเสียดายมาก แต่พระประธานที่อยู่ภายในศาลาการเปรียญทั้ง 5 องค์ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ด้านหน้าของวัดด้านติดแม่น้ำเจ้าพระยา มีศาลพระพรหมขนาดใหญ่หันหน้าออกแม่น้ำเจ้าพระยาประดิษฐานอยู่หน้าวัดขุนพรหม ให้เราได้เคารพบูชา           ชุมชนแถบวัดขุนพรหมนั้น มีชื่อเสียงด้านการด้านผลิตผ้าพิมพ์มาตั้งแต่ในสมัยอดีต เนื่องจากผู้คนในสมัยกรุงศรีอยุธยานิยมมอบผ้าลักษณะต่างๆให้แก่กัน เพื่อแสดงถึงฐานะและตำแหน่งของผู้สวมใส่ พระเจ้าแผ่นดินก็จะทรงมอบผ้าให้เป็นบำเหน็จรางวัล แก่ข้าราชการที่ทำความดีความชอบให้แก่บ้านเมือง
Read More

วัดพิชัยสงคราม

วัดพิชัยสงคราม Image #1 Image #2 Image #3 Image #4 Image #5 Image #6           วัดพิชัยสงคราม เดิมชื่อวัดพิไชยหรือวัดพิชัย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบล ประตูชัย อำเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สันนิษฐานว่าคงจะสร้างขึ้นสมัยอยุธยา ราว ๆ พ.ศ.1900 มีบทบาทสำคัญในช่วงวิกฤตขณะกองทัพพม่ารุกคืบเข้าสู่พระนคร ราวพ.ศ.2309 พระยาวชิรปราการ เจ้าเมืองกำแพงเพชรในเวลานั้น เล็งเห็นว่าพม่าจวนเจียนจะยึดพระนครไว้ได้ ทหารและข้าราชการทั้งหลายต่างขวัญเสีย พระมหากษัตริย์ก็มิได้แข็งแกร่ง เห็นทีกรุงศรีอยุธยาจะเสียทีแก่พม่าเป็นครั้งที่ 2 แน่แล้ว ตรองได้ดังนั้นจึงรวบรวมกำลังพลตีฝ่าวงล้อมทหารพม่าข้ามแม่น้ำป่าสักไปตั้งหลักที่วัดพิชัย และได้มาตั้งพระสัตยาธิษฐานต่อหลวงพ่อใหญ่หรือพระพุทธพิชัยนิมิตร พระประธานในพระอุโบสถเพื่อขอให้เดินทางโดยปลอดภัย กลับมากอบกู้กรุงศรีอยุธยาและมีชัยชนะต่อข้าศึกซึ่งเป็นจริงในภายหลัง จนปราบดาขึ้นเป็นพระเจ้ากรุงธนบุรี คืนเอกราชแก่สยามได้สมดังความมุ่งหมาย         ย้อนไปในคราวกรุงศรีอยุธยาแตก วัดพิชัยกลายเป็นวัดร้างเสื่อมโทรมลงไป กระทั่งได้รับการบูรณะราว ๆ สมัยรัชกาลที่ 4 หรือ 5 และได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดพิชัยสงคราม เพื่อเทิดเกียรติเหล่าทหารหาญที่กอบกู้เอกราชได้สำเร็จ นอกจากเรื่องราวด้านประวัติศาสตร์แล้ว วัดพิชัยสงครามยังมีชื่อเสียงมากเรื่องพระดีศรีอยุธยาของหลวงพ่ออุดม พระครูวิชัยกิจจารักษ์ เจ้าอาวาส ผู้ร่ำเรียนวิชาพุทธาคม สายวัดประดู่ทรงธรรม และสายอยุธยาโบราณจนรู้แจ้ง ปลุกเสกวัตถุมงคลศักดิ์ศรีมากมาย เช่น เสื้อยันต์, ไม้ครู, ลูกสะกด และพิรอดแขน โดยเฉพาะตะกรุดถือเป็นวัตถุมงคลชิ้นเอกของหลวงพ่ออุดมที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง          สิ่งที่หน้าสนใจภายในวัด  ได้แก่ พระพุทธพิชัยนิมิต พระประธานในพระอุโบสถ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ศาลวีรชน พระพุทธรูปรอบอุโบสถ และภาพวาดสีเกี่ยวกับประวัติของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโดยรอบของอุโบสถ เป็นต้น
Read More

วัดธรรมนิยม

วัดธรรมนิยม Image #1 Image #2 Image #3 Image #4 Image #5 Image #6           วัดธรรมนิยม หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "วัดยมไทย" ชาวบ้านนิยมเรียกสั้นๆ ว่า "วัดยม" ตั้งอยู่เหนือทางรถไฟ ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกายพื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่มติดริมแม่น้ำ การคมนาคมสะดวกทั้งทางน้ำและทางบก           การสร้างวัดครั้งแรกนั้นไม่ทราบแน่ชัด เหรียญหลวงพ่อดำจากการบอกเล่าของผู้รู้หลายท่าน กล่าวว่า เจ้าพระยายมราช (สังข์) เป็นผู้สร้าง จึงได้มีนามว่า วัดยม โดยเอาคำว่า ยม มาจากนามฐานันดรศักดิ์ คือ "ยมราช"จากการสันนิษฐาน เห็นว่า การสร้างวัดครั้งแรก คงจะมีขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น หรือไม่ก็เป็นสมัยสุโขทัย โดยมีหลวงพ่อดำ เป็นพระประธานในอุโบสถ           “หลวงพ่อดำ”  เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่เนื่องจากเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยา ถูกข้าศึกทำลายเสียหาย ครั้นสมัยบูรณะวัดธรรมนิยม จึงได้บูรณะองค์หลวงพ่อดำและนำมาประดิษฐานหน้าอุโบสถหลังใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้สักการบูชา วัดธรรมนิยม เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อดำ จึงได้จัดสร้างเหรียญหลวงพ่อดำ รุ่น 1 มหาเศรษฐี และรุ่นชนะภัย เพื่อให้ประชาชนผู้ที่มีจิตศรัทธา ได้นำไปบูชาเป็นสิริมงคลกับตัวเองและครอบครัว
Read More

พระตำหนักสิริยาลัย

พระตำหนักสิริยาลัย Image #1 Image #2 Image #3 Image #4 Image #5 Image #6           พระตำหนักสิริยาลัย เป็นพระตำหนักที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งซ้ายในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ในท้องที่ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บนพื้นที่กว่า 17 ไร่ พระตำหนักหลังนี้เป็นพระตำหนักแบบไม้ยูคาลิปตัส ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ แห่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลปัจจุบัน (ขณะนั้นทรงดำรงพระอิสริยยศที่ “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร”) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างขึ้นโดยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สำหรับพระราชทานและถวาย “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙” ออกแบบโดยหม่อมหลวงท้าวเทวา เทวกุล มีศิลปกรรมแบบหมู่เรือนไทยโบราณ แวดล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด
Read More
วัดนักบุญยอแซฟ

วัดนักบุญยอแซฟ

วัดนักบุญยอแซฟ Image #1 Image #2 Image #3 Image #4 Image #5 Image #6           วัดนักบุญยอแซฟ เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกแห่งแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา          วัดนักบุญยอแซฟ ถือเป็นศูนย์กลางของคริสตชนชาวสยามในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีประวัติมาตั้งแต่ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อปีแยร์ ล็องแบร์ เดอ ลา ม็อต กับฟร็องซัว ปาลูว์ ได้เข้ามาทูลขอสร้างโบสถ์คริสต์และโรงเรียน สมเด็จพระนารายณ์จึงทรงพระราชทานที่ดินแปลงหนึ่งให้ ซึ่งภายหลังเป็นที่รู้จักกันในสมัยนั้นว่า “ค่ายนักบุญยอแซฟ” จนถึงการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง โบสถ์ได้ถูกเผาทำลายและถูกปล้นสะดมทรัพย์สินไปหมด บาทหลวงฌ็อง-บาติสต์ ปาลกัว จึงได้กลับมาบูรณะโบสถ์อีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2374 และโบสถ์หลังปัจจุบันคือในสมัยคุณพ่อแปร์โร ที่ได้ทำพิธีเสกในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2426 โบสถ์ได้ทำการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2547 ปัจจุบันตัวโบสถ์หลังปัจจุบันนี้มีอายุแล้วกว่า 136 ปี และได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ในปี พ.ศ. 2548 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์
Read More